วันที่ 11 พ.ค. 2564 นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนาย กรั ฐมนตรี
เปิ ดเผ ยว่า ในที่ประชุมค ณะรั ฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบร่ างพระร าชบัญญัติงบประมาณร ายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565
เพื่อนำเสนอสภาผู้แทนร าษฎรต่อไป ซึ่ งค าดว่าจะมีการพิจารณาในวาระที่ 1 ระหว่างวันที่ 31 พฤษภาคม – 2 มิถุนายน 2564 นี้
โดยวงเงิ นและโค รงสร้ างงบประมาณร ายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ได้กำหนดวงเงิ นงบประมาณร ายจ่าย
จำนวน 3,100,000 ล้ านบ าท ลดลงจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 จำนวน 185,962.5 ล้ านบ าท หรือร้ อยละ 5.66
เพื่อให้หน่วยรับงบประมาณมีงบประมาณร ายจ่ายเพี ยงพอในการดำเนินภารกิจเพื่อขับเคลื่อนนโยบ ายและยุทธศาสตร์
การพัฒนาประเทศรวมทั้งรองรับผลกระทบจากสถ านก ารณ์ต่าง ๆ ที่เกิ ดขึ้นในปัจจุบัน โดยมีประมาณการร ายได้สุทธิ
จำนวน 2,400,000 ล้ านบ าท และกำหนดวงเงิ นเพื่อชดเชยการข าดดุลงบประมาณ จำนวน 700,000 ล้ านบ าท
ซึ่ งการข าดดุลงบประมาณจำนวนดังกล่าวยังอยู่ในกรอบสั ดส่วนที่กฎหม ายกำหนด
นอกจากนี้ กรณีงบประมาณร ายจ่ายลงทุนมีจํานวนน้อยกว่าวงเงิ นส่วนที่ข าดดุลของงบประมาณที่กําหนดไว้
สํานักงบประมาณได้เสนอมา ตรการดังกล่าวต่อค ณะรั ฐมนตรีให้ความเห็นชอบแล้ว เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2564

โดยการเพิ่มแหล่งเงิ นลงทุนของประเทศในช่องทางอื่นนอกเหนือจากงบประมาณร ายจ่าย ได้แก่
(1) การให้เอกช นร่วมลงทุนในกิจการของรั ฐ (PPP)
(2) การลงทุนของหน่วยงานในกองทุนรวมโค รงสร้ าง พื้ นฐานเพื่ออนาคตประเทศไ ทย (THAILAND FUTURE FUND) และ
(3) การใช้เงิ นกู้เพื่อพัฒนาเศร ษฐกิจและ สังคม ตามม าตรา 22 แห่ง พ.ร.บ. การบริหารหนี้สาธารณะ 2548
ทั้งนี้ สํานักงบประมาณได้จัดทําคําชี้แจง เหตุผลความจําเป็นของมา ตรการดังกล่าว และจะได้จัดทําคําแถลงต่อรั ฐสภาต่อไป