พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรั ฐมนตรี เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือที่ทำเนียบรั ฐบ าล วานนี้ (22 มี.ค.)
เพื่อประเมินมาตรการกระตุ้นเศร ษฐกิจ โดยมีผู้เข้าร่วม คือ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรั ฐมนตรี
และรั ฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายอาคม เติมพิทย าไพสิฐ รั ฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการการธนาค ารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า ได้ร ายงานให้นายกรั ฐมนตรีทร าบผลของการกระตุ้นเศร ษฐกิจ
ซึ่งมาตรการภาครั ฐช่วงที่ผ่านมาเพิ่มการหมุนเวียนของเม็ดเ งินในระบบเศร ษฐกิจ โดยเฉพาะหมุนเวียนผ่านร้ านค้ าได้ดี
โดยภาพรวมของเศร ษฐกิจมีความเ ชื่อมั่นฟื้นขึ้นตั้งแต่ทยอยฉีดวัคซีน
ทั้งนี้ นายกรั ฐมนตรีสั่งการให้หน่วยงานเศร ษฐกิจพิจารณาต่ออายุมาตรการที่จะช่วยการบริโภค
และการท่องเที่ยวในประเทศในช่วงครึ่งปีหลัง เพื่อให้ต่อเนื่องจากช่วงมาตรการที่จะหมดอายุ
ซึ่งมาตรการที่ค าดว่าจะต่ออายุได้แน่นอน คือ มาตรการคนละครึ่ง มาตรการเร าเที่ยวด้วยกัน
ซึ่งทั้ง 2 โครงการจะต่ออายุในเฟสที่ 3 โดยโครงการคนละครึ่งต่ออายุได้เพร าะใช้เ งินไม่มาก และจะใช้ได้ช่วงเดือน มิ.ย.นี้
ส่วนมาตรการเร าเที่ยวด้วยกันระยะที่ 3 จะเสนอศูนย์บริหารสถานการณ์เศร ษฐกิจจากผลกระทบของ cv19 (ศบศ.)
วันที่ 26 มี.ค.2564 ดึงคนมีเ งินเพิ่มการจับจ่ าย
นอกจากนี้ได้ร ายงานนายกรั ฐมนตรีว่า ช่วงที่ผ่านมามีเ งินฝากในระบบมากขึ้น
ซึ่งเป็นทิศทางเดียวกันกับหลายประเทศ เช่ น สหรั ฐ ญี่ปุ่น ซึ่งแนวทางที่ภาครั ฐเคยดำเนินการไปก่อนหน้านี้
คือ การออกมาตรการช็อปดีมีคืน แต่มาตรการที่ออกมาใหม่จะไม่ได้คิดในเรื่องของฐานภาษี
หรือระยะเวลาของการยื่นภาษีเป็นหลัก ซึ่งขอให้รอดูว่าจะออกมาลักษณะใด แต่ได้ฝากให้
รั ฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังนำไปหามาตรการเพิ่มเติมในการจูงใจให้ผู้นำเ งินออกมาใช้จ่ายเพื่อช่วยกระตุ้นเศร ษฐกิจมากขึ้น
นอกจากนี้นายกรั ฐมนตรีได้สอบถามถึงมาตรการเร าผูกพัน ซึ่งเป็นมาตรการช่วยเหลือข้าร าชการที่มีร ายได้น้อย 1 ล้านคน
ซึ่งกลุ่มนี้ถือว่าเป็นกลุ่มที่รั ฐบ าลต้องดูแลเช่ นกัน เพร าะเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบในช่วงสถานการณ์ cv 19 แม้จะไม่ถูกหักเ งินเดือน
นายกรั ฐมนตรีเป็นห่วงเศร ษฐกิจ ต้องการให้ออกมาตรการเยี ยวย าและดูแลให้ครอบคลุมทุกกลุ่ม
และต้องการเห็นการฟื้นตัวของเศร ษฐกิจอย่ างเป็นรูปธรรมจึงอย ากให้เสนอมาตรการเป็นแพคเกจที่ครอบคลุมหลายเรื่อง
มาตรการที่จะออกมาในช่วงครึ่งหลังของปีก็เป็นมาตรการที่ใช้แล้วได้ผล แต่ต้องดูระยะเวลาว่าแต่ละช่วงใดจะส่งผลดีต่อเศร ษฐกิจอย่ างไร
ส่วนการติดตามเรื่องของสถานการณ์การผิดชำระหนี้ของผู้ประกอบการร ายย่อย
และสินเ ชื่อส่วนบุคคลที่มีการปรับโครงสร้ างหนี้กับสถาบันการเ งินทั้ง 21 แห่ง
นายกรั ฐมนตรีได้สอบถามเรื่องนี้เช่ นกันและขอให้ร ายงานความคืบหน้ากลับมาให้ทร าบอีกครั้ง
ข้อมูลsiamtoday