ส รุปค วามคืบห น้า ภ าคต่อเ ยียวย า มีอะไรบ้ าง

อัพเดทล่าสุด มาตรการเ ยียวย า CV ที่สังคมกำลังจับตา ทั้ง “โครงการเร าช นะ”

รวมถึง “เร าเ ที่ยวด้วยกัน” , “คนละครึ่งเฟส 3” และมาตรการ “ม.33 เร ารักกัน” ล่าสุด

คืบหน้าถึงไหนแล้ว โดยหลายมาตรการสิ้นสุดแล้ว ขณะที่อีกหลายมาตรการ รั ฐบ าลได้ต่ออายุเพิ่มเติม

มาตรการ “เร าช นะ” ที่ออกมาเพื่อเ ยียวย าประชาช นจากสถานการณ์การแพร่ร ะบ าดของ CV ระลอกใ หม่

โดยมุ่งเน้นช่วยเหลือกลุ่มผู้มีร ายได้น้อย เกษ ตรกร อาชีพอิสระ ผู้ถือบั ตรสวัสดิการแห่งรั ฐ

รวมถึงผู้ที่ได้สิ ทธิมาตรการคนละครึ่งหรือเร าเ ที่ยวด้วยกัน ด้วยการจ่ ายเ งินเ ยียวย า 7,000 บ าทตลอดมาตรการ

ทั้งผ่านบั ตรคนจน และแอพพลิเคชั่นเป๋าตัง เพื่อใช้จ่ ายซื้อสินค้ าและจ่ ายค่ าบริ การกับร้ านค้ าที่เข้าร่วมมาตรการ

ซึ่งปัจจุบันเริ่มจ่ ายเ งินเ ยียวย าแล้ว

ขณะเ ดียวหนึ่งในปัญ หาที่เ กิดขึ้น และรั ฐต้องเร่งหาทางช่วยเหลือคือ กลุ่มที่ต้องการความช่วยเหลือพิเ ศษ

ไม่ว่าจะเป็น “เร าช นะกลุ่มพิเ ศษ” อาทิ กลุ่มไม่มีสมาร์ทโฟน กลุ่มที่ไม่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ต

หรือกลุ่มที่ไม่สามารถใช้แอพฯเป๋าตังได้ รั ฐจะเ ปิดช่องให้ใช้บั ตรประชาช นลงทะเ บียนกับสาขาธนาค ารกรุงไทย ออมสิน

และ ธ.ก.ส. รวมถึงจุดบริ การเคลื่อนที่ ซึ่งจะสิ้นสุดวันลงทะเ บียน 26 มี.ค.2564

โดยผู้ที่ได้สิ ทธิเร าช นะ สามารถใช้จ่ ายซื้อสินค้ าและจ่ ายค่ าบริ การกับร้ านค้ าที่เข้าร่วมมาตรการ

จนถึงวันสิ้นสุดมาตรการ 31 พ.ค.2564

มาตรการ “คนละครึ่ง เฟส 3”

ขณะที่มาตรการ “คนละครึ่ง” นั้นมีความเค ลื่อนไหวล่าสุด (5 มี.ค.2564)

นับเป็นข่ าวดีเ นื่องจาก “กฤษฎา จีนะวิจารณะ” ปลัดกระทรวงการคลัง

เ ปิดเผยถึงการที่กระทรวงการคลังกำลังอยู่ในระหว่างการออกแบบโครงการ “คนละครึ่ง เฟส 3”

เพื่อสร้ างกำลังซื้อต่อเ นื่องให้กับระบบเศร ษฐกิจ หลังจากที่คนละครึ่งเฟสแรก และคนละครึ่งเฟส 2

มีประชาช นรวมกันกว่า 14 ล้านร าย ได้รับสิ ทธิและใช้จ่ ายอย่ างต่อเ นื่อง

ในรอบใ หม่นี้ยังคงอยู่ระหว่างการพิจารณาในร ายละเอียด โดยเฉพาะเรื่องจำนวนผู้ที่สมควรได้รับสิ ทธิ

ว่าควรจะใช้หลักเกณฑ์ใด โดยหลักการเบื้องต้นนั้นยังอยู่ภายใต้แนวคิดโค-เพย์ คือ รั ฐช่วยจ่ าย 50%

และผู้ได้รับสิ ทธิจ่ ายเองอีก 50% และในรอบนี้อาจเพิ่มสิ ทธิให้สามารถนำไปใช้จ่ ายเพื่อซื้อบริ การได้ด้วย

อาทิ การจ่ ายเพื่อค่ าขนส่งสาธารณะ เช่ นเดียวกับมาตรการเร าช นะ

มาตรการ “เร าเ ที่ยวด้วยกัน เฟส 3”

และอีกหนึ่งมาตรการที่ส่งเ สริมภาคการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นเ ซ็กเตอร์หลักของระบบเศรษ ฐกิจไทย

และได้รับผลกระทบอย่ างหนักจากมาตรการปิดประเทศ และล็อกดาวน์ นั่นคือ “เร าเ ที่ยวด้วยกัน”

ที่ปัจจุบันรั ฐเต รียมต่อมาตรการสู่ เร าเ ที่ยวด้วยกัน เฟส 3

โดย “ยุทธศักดิ์ สุภสร” ผู้ว่าการการท่องเ ที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)

ระบุถึงมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว เมื่อวันที่ 4 มี.ค.2564 ว่า ในวันที่ 5 มี.ค.2564

หารือกับเลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษ ฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สศช.

ถึงโครงการ “เร าเ ที่ยวด้วยกัน” หรือเร าเ ที่ยวด้วยกัน.com ซึ่งเ บื้องต้นจะเพิ่มจำนวนสิ ทธิขึ้นอีก 2 ล้านสิ ทธิ

หรือ 2 ล้านห้อง รวมของเดิมเป็น 8 ล้านสิ ทธิ ซึ่งให้สิ ทธิถึงเดือนกรกฎาคม 2564

นอกจากนี้มีความเป็นไปได้ที่มีการปรับลดร าค าห้องพักต่อห้อง จากร าค า 7,500 บ าท มาเป็น 2,700 บ าท

หลังตรวจพบว่าผู้ใช้สิ ทธิเร าเที่ยวด้วยกันใช้บริ การห้องพักในร าค าเฉลี่ยไม่เกิน 2,700 บ าทเท่านั้น

แต่ทั้งนี้อาจมีการเ ปลี่ยนแปลงร ายละเอียดบ างส่วนเพื่อป้องกันการทุจริต เช่ น

ตรวจสอบการบุ๊กกิ้งล่วงหน้าในแต่ละโรงแรม พร้อมกับให้ประชาช นจองล่วงหน้า 14 วัน เป็นต้น

รวมถึงเรียกสอบเอกสารการใช้สิ ทธิเ ช็กอินก่อนโอนเ งินให้โรงแรมที่พัก

จากเดิมที่ธนาค ารกรุงไทยจะโอนเ งินเข้าระบบตามอัตโนมั ติ

ข้อมูลbangkokbiznews