เกิ ดมาหนึ่งชีวิ ต อย่ าไปค าดหวั งอะไรให้มาก

เกิ ดมาหนึ่งชีวิต อย่ าไปค าดหวังอะไรให้มาก แค่มองความสำเร็จเล็กๆน้อยๆ มีความสุขอยู่ในทุกวันก็เพี ยงพอแล้ว

ถึงเหนื่ อยแต่ใช่ว่าแพ้…ความท้อก็แค่…บททดสอบของชีวิ ต

อย่ าคิดว่าตัวเร าโ ชคร้ าย อย่ าคิดว่าชีวิตเร าแย่ที่สุด เพร าะคนอื่น ๆ

เขาก็มีปั ญห าของเขาที่ต้องต่อสู้เหมือนกัน ทุกคนก็เหนื่ อยกันหมด ไม่ใช่แค่เร าค นเดียว

ชีวิตนี้ คุณแพ้ไม่ได้ และถ้าในโลกนี้ไม่มีเส้นทางสำหรับคนแพ้ คุณจะเลือกเส้นทางใดให้กับชีวิตของตัวเอง

แท้จริงแล้วความท้อนั้น ก็เป็นเพียงแค่ภาวะทางความรู้สึกอย่ างหนึ่ง

ที่มันเกิ ดขึ้นโดยไม่มีเหตุผล แต่สามารถกำจัดออกไปได้ด้วยเห ตุผล

ให้ความท้อเป็นเพียงช่วงพักเบรกของชีวิตเท่านั้นก็พอ แต่อย่ าปล่อยให้มันมีอิทธิพลบงการจิตใจคุณให้หยุดทุกอย่ าง

ถ้าใจมันอ ย า กท้อ ก็ปล่อยให้มันท้อให้เต็มที่ แต่อย่ าลืมวางแผนไว้ด้วยว่า…วันไหนที่คุณจะลุกขึ้นมาทำหน้าที่ของคุณอีกครั้ง

1 ขวบ ที่สุดในชีวิตก็คือ การเดินได้ด้วยตัวเอง โดยที่ไม่ต้องมีใครมาพยุง

4 ขวบ ที่สุดในชีวิตก็คือ…ไม่ฉี่รดกางเกง

8 ขวบ ที่สุดในชีวิตก็คือ…รู้ทางกลับจากโรงเรียนมาบ้ านได้

15 ปี ที่สุดในชีวิตก็คือ…การมีเพื่อนมากมายที่รักเร า

18 ปี ที่สุดในชีวิตก็คือ…การสอบเข้ามหาวิท ย า ลัยได้

22 ปี ที่สุดในชีวิตก็คือ…การเรียนจบจากมหาวิท ย า ลัย

25 ปี ที่สุดในชีวิตก็คือ…การมี ง า น ทำ สามารถเลี้ยงดูตัวเองได้

3O ปี ที่สุดใ นชีวิตก็คือ…การสร้ างคร อบครั วที่อบอุ่น

35 ปี ที่สุดในชีวิตก็คือ…การสร้ างฐ านะที่มั่นคงได้มากขึ้น

45 ปี ที่สุดใน ชีวิตก็คือ…การได้ให้การศึกษาดีๆแก่ลู กๆ

5O ปี ที่สุดใน ชีวิตก็คือ…การรักษาภาwลักษณ์ที่ดี

55 ปี ที่สุดในชีวิตก็คือ…ยังสามารถทำ ง า น ได้อย่ างดี

6O ปี ที่สุดในชีวิตก็คือ…ยังขับรถ พาตัวเองไปในที่ที่อ ย า กไปได้

65 ปี ที่สุดใน ชีวิตก็คือ…มีสุขภาwที่แข็งแรง ไม่เจ็บไม่ไข้

7O ปี ที่สุ ดในชีวิตก็คือ…ยังได้พบปะ พูดคุยกับเพื่อนเก่าๆ

75 ปี ที่สุดในชี วิตก็คือ…ไม่เป็นภาระให้ใคร

80 ปี ที่สุดในชีวิตก็คือ…ยังจำทางกลับบ้ านได้

ผมได้ถามเพื่อนคนหนึ่ง ที่ตอนนี้เขาอายุ 6O ปีแล้ว ผมถามเขาว่า

คุณได้เรียนรู้อะไรและอ ย า กจะเปลี่ยนแปลงอะไรที่ผ่านมาในชีวิตบ้ าง และก็ได้ข้อสรุปดังนี้

1 ผมคงไม่ยึดเอาความคิดตัวเองเป็นหลัก จนทำลายมิตรภาwดีๆ

เพร าะก ารอยู่คนเดียว มันไม่ความสุขเท่าการมีความสุขหลายๆคน

2 ผมคงถอยห่างจากคนที่ดูถูกผม เพร าะค นเหล่านั้นไม่เข้าใจคุณค่ าในตัวผม

ดังนั้นผมคงไม่อยู่ใกล้ให้ความคิดลบของเขา มาทำให้จิตใจผมต้องขุ่นมัว

3 ผมคงไม่กังวลกับรอยเปื้อนเล็กๆบนเสื้อผ้า หรือแ ม้แต่ข้อผิดพลาด

เล็กๆน้อยๆของคนอื่น เพร าะนิสัยสำคัญกว่ารูปลักษณ์ภายนอก

4 ผมคงมองในแง่บวก ชื่นชมมากกว่าตำหนิ ไม่ใช่แค่ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกดี แต่ก็ยังทำให้เร ารู้สึกดีไปด้วย

5 ผมคงไม่แก้ไขความผิดคนอื่น แ ม้ว่าค นเหล่านั้นจะผิด

เพร าะการทำให้ทุกคนเป็นคนที่สมบูรณ์แบบ ไม่ใช่หน้าที่และความรับผิดชอบของผม

6 ผมคงไม่พูดกับผู้สูงอายุอีกว่า “ เรื่องนี้ท่านได้เล่าให้ฟัง…หลายครั้งแล้ว ”

เพร าะเรื่องที่ท่านกำลังเล่า ทำให้ท่านช่วยฟื้นความทรงจำ ไม่ทำให้เป็นคนขี้หลงขี้ลืม

7 เมื่อก่อนผมรักพ่ อแ ม่ พี่น้อง และเพื่อนฝูง แต่ตอนนี้ผมอายุมากขึ้น สุขภาwก็เริ่มถดถอย ผมหันกลับมารักตัวเองมากขึ้น

8 ผมไม่ต่อร าค ากับแ ม่ค้ า ข า ย ผักผลไม้ ผมอาจจะต้อง จ่ า ย เ งิ น เพิ่มอีกเล็กน้อย

ซึ่งไม่ได้กระทบกับชีวิตผม แต่ เ งิ น เพียงเล็กน้อยที่ผมต่อ อาจหม ายถงึค่ าเล่าเรียนในอนาคตของลู กๆเขา

9 เมื่อต้อง จ่ า ย ค่ าแท็กซี่ ผมไม่รอให้คนขับหาเศษเหรียญมาทอน

การให้ทิปเขาเล็กน้อย อาจได้รับรอยยิ้มตอบแทนมา และนั่นคือสิ่งที่ดี

1O ผมคิดไว้เสมอว่า ทุกวันเป็นวันสุดท้าย เพร าะวันหนึ่งก็ต้องถึงวันสุดท้ายของชีวิต และผมคงทำในสิ่งที่ทำให้ผมมีความสุข

จงยอมรับความจริงที่เกิ ดขึ้นและรีบทำใจลืมมันซะ เพร าะหากเธอยังคิดฟุ้งซ่านและหมกมุ่น

กับความเจ็บแค้นเสียใจอยู่อย่ างนี้ คนที่ทำร้ ายเธอจะไม่ใช่อีกต่อไปแล้ว แตมันจะเป็นตัวของเธอเอง

เพื่อนๆที่ผมรู้จัก บ างคนยังไม่ทันได้ใช้ชีวิตหลังเกษียณ ก็ต้องจากโลกนี้ไปแล้ว ส่วนบ างค นที่เพิ่งเกษียณ

แทนที่จะได้พักผ่อนให้สบ ายร่ างกาย ที่ต้องทนทำ ง า น มาเกือบค่อนชีวิต

กลับต้องไปใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ในโรงพ ย า บ าล ส่วนผมนั้นโ ชคดี…ที่ตอนนี้ยังเดินทางไปนั่นนี่ได้อย่ างสะดวก

ต้องขอบคุณทุกสิ่งที่ผ่านมาในชีวิต ที่ทำให้ผมยังเป็นผมได้อยู่ทุกวันนี้

ขอขอบคุณแหล่งที่มาจาก : ต้นฉบับภาษาจีน หม่าหุ้ย หัวหน้าบรรณาธิการสำนักพิมพ์ชิงหัว , FW Line

Facebook Comments