แค่พอใจในสิ่งที่ตัวเองมี ดีกว่าดันทุรังอย ากได้เพราะความอิจฉา

แค่พอใจในสิ่งที่ตัวเองมี ดีกว่าดันทุรังอยากได้เพราะความอิจฉา เท่านี้ก็มีความสุขที่สุดแล้ว

คนที่มีความสุขที่สุด ไม่จำเป็นต้องมีสิ่งที่ดีที่สุด เพียงรู้จักพอใจในสิ่งที่ตัวเองมี เขาก็จะกลายเป็นคนที่มีความสุขที่สุดแล้ว

คนเรามีความสุข ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่ามีเท่าไหร่ แต่มันขึ้นอยู่กับว่า เราพอเมื่อไหร่ ชีวิตที่มีความสุข คือ พอใจในสิ่งที่มี ยินดีในสิ่งที่ตนเป็น แค่นี้ก็สุขได้ถ้าใจพอ

ความอยากได้อยากมีของคนเรานั้น ไม่มีที่สิ้นสุด ดั่งเหมือนบางคน มีคู่ครองอยู่แล้ว แม้วันนี้ยังไม่ได้นอกใจแฟน แต่ใจก็คิดถึงผู้หญิงหรือผู้ชาย คนใหม่ แม้วันนี้ยังไม่ผิดศีล แต่วันพรุ่งนี้ก็ไม่แน่

นั่นเพราะใจของเราคิดฝักใฝ่สิ่งใด มักจะมีโอกาสโน้มเข้าหาสิ่งนั้นเสมอ อยู่กับปัจจุบัน รู้สึกพอใจในปัจจุบันเมื่อใด ความรู้สึกอยากได้ อยากมี ก็จะลดลง

หันมามองคุณค่าของสิ่งที่เรามีอยู่ ณ วันนี้ ไม่ว่าจะเป็น คน หรือ สิ่งของ หรือ อะไรก็ตาม มือถือที่เราใช้อยู่ ใช้สักสามปี ห้าปี ไม่ใช่ใช้แค่ไม่กี่เดือน พอมีรุ่นใหม่ ก็อยากได้

รถยนต์ที่มีอยู่ หากยังใช้งานได้ดี ไม่มีปัญหา ก็ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนใหม่แต่อย่างใด เปลี่ยนแต่ละครั้ง มีค่าส่วนต่างมหาศาล

บ้านหลังใหญ่ในวันนั้น กลับเล็กลงในวันนี้ ไม่ใช่ตัวบ้านที่เล็กลง แต่เพราะความอยากของเรามากขึ้น เราจึงมองมันเล็กลง

คู่ครองที่ใช้ชีวิตด้วยกันในวันนี้ เติมเต็มความรู้สึกดีๆ ให้กันอยู่เสมอ มองเห็นคุณค่าของเธอเสียใหม่ อย่าคิดนอกใจคนรักของเรา

ถ้าใจเรายังแกว่ง แม้แต่เพียงความคิด ก็อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ เพราะการกระทำของเรา ก็มาจากความคิดของเรานั่นเอง

เขียนมาถึงตรงนี้ ก็ให้นึกถึงเพลงๆ หนึ่ง ที่มีเนื้อเพลงตอนหนึ่งที่ว่า อยู่กับสิ่งที่มี ไม่ใช่สิ่งที่ฝัน และทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด น่าจะเป็นคำตอบของเรื่องนี้ได้เลย

เมื่อถึงวันหนึ่ง คุณจะเข้าใจได้เอง ว่าการรู้จักพอ ไม่ใช่ความพ่ายแพ้ แต่เป็นชัยชนะที่สมบูรณ์แบบ ความสุขที่แท้จริงไม่ได้อยู่ที่ รวย หรือ จน แต่คุณน่ะพอหรือยัง หากพอแล้วคุณก็จะเป็นคนที่มีความสุที่สุดในโลกแล้วค่ะ

ขอบคุณที่มา โค้ชวันพุธ อ กฤตวัฏ อ่านสนุก